ครูชาวโปรตุเกส ออกไปตามท้องถนนเมื่อกระแสความไม่พอใจทวีความรุนแรงขึ้น

ลิสบอน: ครูหลายหมื่นคนพากันไปตามท้องถนนในลิสบอนเมื่อวันเสาร์ (11 ก.พ.) ในการประท้วงที่ใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในโปรตุเกสในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เนื่องจากรัฐบาลสังคมนิยมเผชิญกับกระแสความไม่พอใจต่อวิกฤตค่าครองชีพ

“(เรา) ได้รับการปฏิบัติที่ไม่ดีมาเป็นเวลานานแล้ว” มาเรีย โคลโฮ ครูสอนภาษาชาวโปรตุเกสวัย 55 ปี กล่าว ขณะที่เธอถือป้ายที่มีข้อความว่า “เคารพ” ในการประท้วงที่จัดโดยสหภาพ FENPROF

“เราอยู่ที่นี่ในวันนี้ และเราจะมาที่นี่อีกในอนาคต” เธอกล่าวเสริม

สหภาพกล่าวว่าคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมการประท้วงมากกว่า 100,000 คน ไม่มีการประมาณการการเข้าร่วมของตำรวจในทันที นี่เป็นครั้งที่สามในรอบไม่ถึงหนึ่งเดือนที่ครูและเจ้าหน้าที่โรงเรียนจัดการเดินขบวนประท้วงจำนวนมากในโปรตุเกส

ครูในระดับค่าจ้างที่ต่ำที่สุดทำเงินได้ประมาณ 1,100 ยูโร (1,174.25 เหรียญสหรัฐ) ต่อเดือน แต่ครูในระดับที่สูงขึ้นมักจะมีรายได้น้อยกว่า 2,000 ยูโร พวกเขายังต้องการให้รัฐบาลเร่งความก้าวหน้าในอาชีพ

“ฉันรู้สึกถูกปล้นไปทุกๆ วันในชีวิต” อัลเบอร์ตินา บัลทาซาร์ ครูผู้มีความต้องการพิเศษกล่าว “(เราต้องการ) เคารพในอาชีพของเรา”

Joao Costa รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการกล่าวว่าการเจรจากับสหภาพครูกำลังดำเนินอยู่และพวกเขาหวังว่าจะบรรลุข้อตกลงในเร็วๆ นี้

หนึ่งปีหลังจากที่อันโตนิโอ คอสตา นายกรัฐมนตรีแห่งพรรคสังคมนิยมได้รับเสียงข้างมากในรัฐสภา เขากำลังเผชิญกับความนิยมที่ตกต่ำและการประท้วงบนท้องถนนไม่เพียงแค่โดยครูเท่านั้น แต่จากมืออาชีพคนอื่นๆ

โปรตุเกสเป็นหนึ่งในประเทศที่ยากจนที่สุดในยุโรปตะวันตก โดยข้อมูลของรัฐบาลระบุว่าคนงานมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์มีรายได้น้อยกว่า 1,000 ยูโรต่อเดือนในปีที่แล้ว ค่าจ้างขั้นต่ำคือ 760 ยูโรต่อเดือน

CGTP สหภาพร่มที่ใหญ่ที่สุดของโปรตุเกสจัดการประท้วงและนัดหยุดงานหลายครั้งทั่วประเทศในวันพฤหัสบดีเพื่อต่อต้านราคาที่สูงขึ้นและเรียกร้องให้รัฐบาลเพิ่มค่าจ้างคนงาน

พยาบาลยังถูกหยุดงานเนื่องจากขาดความก้าวหน้าในอาชีพ และแพทย์คาดว่าจะหยุดงานเป็นเวลา 2 วันในเดือนหน้า

เมื่อวันที่ 25 ก.พ. การเคลื่อนไหว ‘Fair Life’ กระตุ้นให้ผู้คนประท้วงในกรุงลิสบอนเกี่ยวกับวิกฤตค่าครองชีพ อัตราเงินเฟ้อใกล้เคียงกับระดับสูงสุดในรอบสามทศวรรษ