ก้อย เคลียร์ดราม่าหลังเลิก นิกกี้ ไม่มีใครผิดถูก เพราะเขายังเป็นคนที่เรารัก

หลังจากที่ออกมาประกาศยุติสถานะกันไประหว่าง นิกกี้ ณฉัตร และ ก้อย อรัชพร ว่าจบกันด้วยดี ไม่มีมือที่สาม แต่ก็เกิดดราม่าตามมาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้เจอ ก้อย ที่งานประกาศรางวัลคมชัดลึก อวอร์ด ครั้งที่ 19 ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ก็ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อถึงดราม่าที่เกิดขึ้นว่า

กับเรื่องราวที่เกิดขึ้นสบายใจขึ้นหรือยัง?

ก้อย : ก็โอเคนะคะ อย่างที่บอกคือจบกันดี ได้คุยกันดี แล้วก็รู้สึกว่าคุยกันมามากพอแล้ว ตอนนี้ก็รู้สึกว่าทำงานเยอะมาก ทำทุกวันให้ดี สบายใจขึ้น ก็โอเค

กี่เปอร์เซ็นต์?

นัตตี้ : ความรู้สึกมันละเอียดอ่อนมาก ให้บอกเป็นตัวเลขมันก็จะอธิบายยาก
ก้อย : ถ้าโดยรวมก้อยรู้สึกว่าโอเคเกิน 50 เปอร์เซ็นต์

กว่าจะถึงวันที่เราออกมาพูดก่อนหน้านี้ ใช้เวลาพอสมควรมั้ย?

ก้อย : มันไม่นานขนาดนั้น เหมือนค่อนข้างตีๆ กันนิดนึง แต่ว่าข้อดีคือแม้มันจะไม่ได้นาน แต่วันที่เราตกลงตัดสินใจร่วมกัน ก้อยว่าวันนั้นมันเป็นวันที่ชัดเจน ก็เลยโอเค

ที่ผ่านมามันยังไม่ชัดเจน 100 เปอร์เซ็นต์แบบวันนั้น?

ก้อย : ก่อนที่จะมาพูดมันชัดเจนก่อนหน้านั้นแล้ว แค่ว่าระยะเวลามันสั้นแค่นั้นเอง มันเหมือนว่าเราได้คุยกัน ตกลงแล้วนะว่าเราจะแยกกันนะ เพราะมันแค่แป๊บเดียวแค่นั้นเองเราก็ต้องออกมาบอกผู้คนแล้ว เหมือนว่าไม่ได้มีเวลาอยู่กับตัวเองหรือว่าให้อารมณ์มันสงบ ก็ต้องออกมาแล้ว มันเลยดูเหมือนอารมณ์เยอะ

อย่างเหตุผลที่เราพูดออกไป หลายคนมองว่ามันจริงหรือเปล่า ไม่ใช่เรื่องมือที่สาม ก็มีเรื่องของนุ่นเข้ามา?

ก้อย : เอาอย่างนี้ดีกว่า ในการเลิกกันไม่มีเรื่องของมือที่สามเลย อันนี้ก้อยยืนยัน แต่ในความที่เราต้องปรับจูนกัน เอางี้ หนูขอบอกว่าไม่เกี่ยวกับมือที่สาม การเลิกกันเป็นแค่เราสองคนจริงๆ เป็นนิสัยและทัศนคติที่มันเหนื่อยที่จะปรับกันแล้ว เพราะฉะนั้นหนูไม่อยากต้องโทษใคร หนูไม่อยากรู้สึกผิดกับใคร คนสองคนจะไปรอด ไม่รอด มันคือสองคนค่ะ

เรื่องเกี่ยวกับผู้หญิง แต่ก้อยขอไม่ให้พูดเรื่องนี้?

ก้อย : หลักๆ มันคือว่าเพื่อนรู้สึกว่าไม่อยากให้ใครพูดแทนเรา ก่อนที่เราจะออกมาพูด มันคือพอยต์เลยนะคะ ที่เพื่อนโดยส่วนใหญ่ออกมาพูด ให้เพื่อนพูดบ้าง

นัตตี้ : นัตตี้และดรีมเราชัดเจนนะคะ ข้อความที่เราโพสต์ เท็กซ์ที่เราเลือกใช้ นัตตี้และดรีมชัดเจนมากว่าที่พูดต้องการอะไร เพราะฉะนั้น อย่างที่บอกว่ามันไม่ได้เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ของก้อยกับพี่นิกกี้เลย เป็นสาเหตุที่เขาเลิกกันคืออะไร อยากให้ฟังจากปากก้อย และไม่อยากให้คนอื่นเข้าใจไปก่อน พูดไปก่อน อยากให้เป็นสารที่เกิดจากก้อยและพี่นิกกี้จริงๆ

นุ่น กับก้อยรู้จัก หรือสนิทขนาดไหนคะ?

ก้อย : เขาเป็นเพื่อนร่วมงานของพี่นิกกี้ แต่ตัวก้อยเองไม่เคยทำงาน หรือว่าสนิทสนมกับเขาเป็นพิเศษค่ะ

คลิปต่างๆ ที่ออกมา เรารู้สึกว่ามันเป็นการทำงานที่เกินเลย เกินไปหรือเปล่า?

ก้อย : ก้อยรู้สึกว่า ในเนื้องานของแต่ละคน มันมีรสนิยม ขอบเขตวิจารณญาณ ต่องานงานนึง แตกต่างกัน ก้อยไม่อยากมานั่งแสดงความคิดเห็นว่างานนี้ดีหรือไม่ดี ชอบหรือไม่ชอบ ก้อยรู้สึกว่าใครสะดวกที่จะดูแบบนั้น มันเป็นสิทธิ์ของเขา ใครที่รู้สึกว่าไม่ใช่ทางของเขาก็ไม่ดูเท่านั้นเอง

เราคุยกับนิกกี้ไม่ให้เกินเลยมากขนาดไหนในการทำงาน?

ก้อย : จริงๆ ทั้งก้อยและพี่นิกกี้ค่อนข้างเคารพในการทำงานกันมากๆ โดยส่วนใหญ่เราให้เกียรติเขาในการตัดสินใจว่านี่คือพื้นที่ของเขา ช่องของเขา เราก็เช่นกันนี่คือพื้นที่ของเรา ช่องเรา เฉพาะฉะนั้นเราแทบไม่เคยก้าวก่ายงานกัน

เวลาเราดูรายการของเขาแล้วเล่นกับผู้หญิง จริงๆ เรารู้สึกมั้ย?

ก้อย : เอ่อ… ขอคิดก่อนนะๆ (หัวเราะ)
นัตตี้ : ตี้ว่าแต่ละคนมีความรู้สึกต่างกัน (หัวเราะ)
ก้อย : คือก้อยไม่อยากคอมเมนต์ พยายามจะบอกว่าเรารู้สึกไม่ดีหรือเรารู้สึกดีกับสิ่งนี้ ก้อยแค่รู้สึกว่ามันแตกต่างจากสิ่งที่เราเคารพแค่นั้นเอง แล้วในวันที่เราคบกันนะสมมติมีอะไรที่ตัวเราไม่ได้รู้สึกดีแล้วเราดันเห็นเราสื่อสารสิ่งนั้นออกไปแล้ว แล้วเขาพยายามอย่างดีที่สุดแล้วเพื่อที่จะให้ความสัมพันธ์ไปรอดเพราะฉะนั้นก็ถือว่าถ้ามีอะไรไม่พอใจก็ถือว่าคุยกัน

หลังจากนั้นเวลาที่คบกันมันโอเคไหม เพราะเหมือนมีที่เราบอกว่าปรับแล้วมันเหนื่อยเลยไม่ปรับแล้ว เราอธิบายหน่อย?

ก้อย : ปัญหาของก้อยคือก้อยสื่อสารกันน้อย เรารู้สึกว่าเราคาดหวังให้อีกฝ่ายเขาเข้าใจ เราคาดหวังให้อีกฝ่ายรู้ว่าเราคิดอะไร ทั้งคู่ มันเลยทำให้เกิดการสื่อสารกันน้อย พอสื่อสารน้อยไปเรื่อยๆ ทำให้มาถึงวันหนึ่งที่เราเหนื่อยจากเรื่องอื่นๆ เรื่องงานทั้งคู่มันเลยรู้สึกว่า โห ไม่อยากจะพยายามแล้วทั้งที่เราสื่อสารกันมาแต่ต้นแล้วว่า เฮ้ย ตรงนี้เธอปรับสิ เหมือนเราละเลยมัน เราก็แค่ไม่เป็นไรหรอก คุณเป็นแบบนี้ แล้วมันก็สะสมไปเรื่อยๆ จนวันหนึ่งมันเหนื่อย เราแค่คุยกันว่าตอนนี้มันเหนื่อยนะ เราแยกกันไปก่อนดีกว่า ถ้าเราอยู่ด้วยกันไปมันอาจจะเหนื่อยแล้วนำพาไปสู่สิ่งที่ไม่ดีกว่านี้เพราะในวันที่หนูอยู่กับเขา เขาดีกับหนูมาก (ยิ้ม) เป็นเพลงที่มีคุณค่า และเขาก็ตั้งใจทำ

ก้อยรับรู้เนื้อหาของเพลงมาโดยตลอด?

ก้อย : เขาก็บอกนะคะว่าเพลงมันเป็นแบบนี้นะ

ฟังตอนนั้นกับตอนนี้ต่างกันมั้ย?

ก้อย : มันก็เป็นเพลงที่เพราะเหมือนเดิม อาจจะเพราะในตอนนั้นและตอนนี้มันต่างกัน แต่ว่าก็เพราะค่ะ

เขาอยากให้ฟังเพราะอยากจะง้อเรา?

ก้อย : ง้อเหรอ หนูไม่รู้ว่าเขาบอกคนอื่นยังไง ต้องไปถามเขา แต่โดยส่วนตัวตอนนี้ก็ให้เราทั้งคู่ใช้ชีวิตของตัวเอง ค่อนข้างใช้ชีวิตของตัวเองเลยค่ะ

รู้สึกมั้ยว่าเขาพยายามง้อเรา?

ก้อย : รู้สึกว่าเขาเคารพในการตัดสินใจของหนู หนูรู้สึกแบบนั้นนะ แต่ว่าเขาคิดยังไงไม่รู้ต้องไปถามเขา

เป็นไปได้มั้ยเพราะคนก็เชียร์คู่เราเยอะ?

ก้อย : หนูไม่รู้จริงๆ ไม่รู้อนาคตไง

รู้สึกกดดันมั้ยที่คนอยากให้กลับมาคืนดี?

ก้อย : หนูเข้าใจเขานะ เขาเห็นเราตั้งแต่วันที่ยังไม่ได้คบกัน จนวันที่คบกัน จนถึงวันที่มันแยกทางกันไป สุดท้ายหนูเชื่อว่า ทั้งหนูและเขาเราเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเองอยู่แล้วค่ะ

เกรงใจเขามั้ย หลังจากเลิกกันเขาโดนทัวร์ลงหนัก?

ก้อย : นั่นเป็นสิ่งที่หนูบอกในคลิปเลย สุดท้ายการเลิกกันเพราะคนสองคนไปด้วยกันไม่ได้ ไม่ว่าสาเหตุจะเป็นอะไรแค่ไปกันไม่ได้ ไม่ต้องหาว่าใครผิดใครถูก และเขาก็เป็นคนที่หนูรัก เป็นรุ่นพี่ด้วย

ต่อไปก้อยก็ไม่ใช่คนขับแล้ว ต้องไปนั่งข้างหลัง?

ก้อย : หนูนั่งยาวเลย แขกเขาจะเบื่อรึเปล่า

เพื่อนๆ ปลอบใจอย่างไรบ้าง?

ดรีม : ก้อยรู้อยู่แล้วว่าพวกเราอยู่ข้างๆ ซัพพอร์ต และยอมรับการตัดสินใจของเขาทุกอย่าง รู้ว่าเขาคิดมาดีแล้ว เราเคารพการตัดสินใจของก้อย

คนไปจับก้อยจิ้นกับพี่บี้?

ก้อย : อ๋อ อันนี้หนูเกรงใจเขามาก และหนูจะมีบาปมั้ย พี่เขาเข้าวัดอะ และพี่บี้เขา คือในวันที่เราสัมภาษณ์พี่บี้ รู้สึกว่าพี่เขาน่ารักมาก มีเส้นทางที่ชัดเจนในแบบของเขา หนูก็เกรงใจ

แต่คนเชียร์เยอะนะ?

ก้อย : ขอบคุณค่ะ หนูว่าปล่อยพี่บี้ไปดีกว่า เพราะพี่บี้น่ารัก แต่ไม่ได้คุยกับพี่บี้เรื่องนี้นะคะ มันเป็นเรื่องที่น่ารักดี แต่ว่าไม่ได้คุย (เป็นไปไม่ได้เลยใช่มั้ย?) เป็นเรื่องที่ไม่รู้ อนาคตอะ ถ้าเจอพี่บี้ก็ไหว้สวยๆ และขอโทษที่มีเรื่องไปรบกวนค่ะ.