การเลือกตั้ง 66 “เมืองพระปรางค์สามยอด” หรือ “เมืองลิง” มีเก้าอี้ผู้แทนราษฎรเพิ่มขึ้นจาก 4 ที่นั่ง เป็น 5 ที่นั่ง โดยผลการเลือกตั้งรอบที่แล้ว มีเพียง 3 พรรค ที่ได้เก้าอี้ ส.ส.ไปครอง ได้แก่ ภูมิใจไทย 2 ที่นั่ง ส่วนพลังประชารัฐ และเพื่อไทย แบ่งกันไปคนละ 1 ที่นั่ง
การเลือกตั้งปีนี้ พื้นที่ที่น่าจับตา คือ เขตเลือกตั้งที่ 3 (บ้านหมี่ ท่าวุ้ง) เพราะคู่ปรับเก่า อย่าง “ส.ส.เปิ้ล” มัลลิกา จิระพันธุ์วาณิช จากพรรคภูมิใจไทย โคจรมาปะทะกับ “สุชาติ ลายน้ำเงิน” จากพรรคเพื่อไทย ซึ่งการเลือกตั้งเมื่อปี 62 เขตนี้เป็นเขตเลือกตั้งที่ 2 โดย “สุชาติ” พ่ายให้กับ “ส.ส. เปิ้ล” เพียง 3 พันกว่าคะแนนเท่านั้น
ในทางยุทธศาสตร์เลือกตั้งครั้งนี้ “ส.ส.เปิ้ล มัลลิกา” ในฐานะแชมป์เก่าต้องรักษาพื้นที่เอาไว้ ได้พกกำลังเสริมจากท้องถิ่นเข้าช่วย โดยมีคุณพ่อ “กมล จิระพันธุ์วาณิช” อดีต ส.ส.ลพบุรี 8 สมัย เป็นผู้กุมบังเหียน ก่อนส่งไม้ต่อให้ “ส.ส.เปิ้ล” ลูกสาว ผู้มาสืบทอดจนได้เป็นผู้แทนถึง 3 สมัยซ้อน
ด้วยตระกูล “จิระพันธุ์วาณิช” นับว่าเป็น “บ้านใหญ่” ในพื้นที่มาอย่างยาวนาน ประกอบกับตัว “ส.ส.เปิ้ล” เอง ก็เคยผ่านสนามท้องถิ่นมาตั้งแต่เป็นสมาชิกสภาเทศบาลเมืองลพบุรี เรื่อยมาจนถึง สมาชิก อบจ. ลพบุรี จึงมีพลังเต็มแม็ก
ขณะที่ฝั่งผู้ท้าชิง อย่าง “สุชาติ ลายน้ำเงิน” จากพรรคเพื่อไทย ประกาศสู้ศึกเต็มตัวเพื่อสางแค้น โดยการเลือกตั้งหนนี้ “สุชาติ” เตรียมตัวมาดี ลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง พร้อมพกความมั่นใจกระแสแลนด์สไลด์ แต่พื้นที่ลพบุรี นอกจากวัดกันที่กระแสแล้ว ต้องดูด้วยว่าใครกระสุนหนักกว่ากัน
สำหรับ “สุชาติ ลายน้ำเงิน” เป็นอดีต ส.ส.ที่เคยฝากวีรกรรมทางการเมืองไว้ให้กล่าวขานมากมาย เช่น สมัยเป็น ส.ส. เมื่อปี 53 ได้ถอดรองเท้าวางบนโต๊ะ ประท้วง “ปิยะรัช หมื่นแสน” อดีต ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย ที่แปรพักตร์ไปร่วมงานกับภูมิใจไทยในเวลานั้น
และอีกครั้งในปี 54 “สุชาติ” ขู่ขว้างรองเท้าใส่ประธานสภา ระหว่างการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ เนื่องจากไม่มีสัดส่วนของสมาชิกพรรคเพื่อไทยร่วมเป็นกรรมาธิการ
“เขต 3 ลพบุรี” จึงไม่ต่างจาก “ศึกชนช้าง” และต้องมาลุ้นว่า “ส.ส.เปิ้ล มัลลิกา” จะรักษาฐานเสียงเข้มแข็งไว้ได้หรือไม่ และ “สุชาติ” จะลบรอยแค้นทวงเก้าอี้คืนให้เพื่อไทยได้หรือเปล่า หลังปิดหีบเลือกตั้ง 14 พ.ค. มีคำตอบให้รอลุ้น
