สหรัฐฯ ชี้ 3 วัตถุลึกลับที่ถูกยิงตกไม่เกี่ยวข้องกับการสอดแนมของจีน

ทำเนียบขาวระบุว่า ไม่มีสิ่งบ่งชี้ว่าวัตถุที่ไม่สามารถระบุได้ 3 ลำ ที่ถูกยิงตกในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาโดยกองทัพสหรัฐฯ มีความเชื่อมโยงกับข้อกล่าวหาการโจรกรรมข้อมูลของจีน โดยนายจอห์น เคอร์บี โฆษกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติประจำทำเนียบขาว กล่าวว่า วัตถุดังกล่าวอาจมีความเชื่อมโยงกับกับการใช้งานเชิงพาณิชย์หรือการวิจัย ดังนั้นจึงไม่เป็นอันตราย

เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และแคนาดายังไม่ได้ระบุตำแหน่งหรือเก็บกู้ซากวัตถุลึกลับที่ถูกยิงตกทั้ง 3 ลำ

ก่อนหน้านี้ รัฐบาลกล่าวหาสหรัฐฯ ว่า “กระหายการแสดงปฏิกิริยาตอบโต้ที่เกินจริง” จีนปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่าบอลลูนลูกหนึ่งของตนซึ่งถูกทำลายโดยเครื่องบินรบของสหรัฐฯ เมื่อต้นเดือนนี้ นอกชายฝั่งรัฐเซาท์แคโรไลนา ถูกใช้เพื่อการสอดแนม โดยระบุว่าเป็นเพียงพาหนะตรวจสภาพอากาศที่ลอยออกนอกเส้นทาง ส่วนบอลลูนอีกลำที่มีผู้พบเห็นในอเมริกาใต้นั้นใช้สำหรับการฝึกนักบิน

นายเคอร์บีระบุในการแถลงข่าวประจำวันว่า เป็นการยากที่จะระบุวัตถุประสงค์หรือที่มาของวัตถุอีก 3 ชิ้นที่ถูกทำลายเหนือน่านฟ้ารัฐอลาสกา แคนาดา และรัฐมิชิแกน จนกว่าจะพบและวิเคราะห์เศษซากดังกล่าว

“เราไม่เห็นสิ่งบ่งชี้หรือสิ่งใดที่ชี้ชัดถึงแนวคิดที่ว่าวัตถุทั้งสามนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการสอดแนมของจีน หรือเกี่ยวข้องกับความพยายามรวบรวมข่าวกรองจากภายนอก”

เขาเสริมว่า “คำอธิบายหลักของหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ ชี้ว่าสิ่งเหล่านี้อาจเป็นบอลลูนที่เชื่อมโยงกับหน่วยงานเชิงพาณิชย์หรือการวิจัย ดังนั้นจึงไม่ก่อให้เกิดพิษภัยใดๆ” แต่เขาตั้งข้อสังเกตว่ายังไม่มีบริษัท องค์กร หรือรัฐบาลใดที่อ้างสิทธิ์ในวัตถุดังกล่าว

เมื่อวันจันทร์ ทางการจีนยกระดับการต่อต้านด้วยการกล่าวหาว่า สหรัฐฯ ส่งบอลลูนเข้ามาในน่านฟ้าจีนมากกว่า 10 ครั้งนับตั้งแต่เดือนมกราคม 2565 ซึ่งเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ปฏิเสธ

ส่วนเมื่อวานนี้ หน่วยบัญชาการทหารสหรัฐฯ ภาคเหนือ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่สามารถเก็บกู้ซากชิ้นส่วนสำคัญของบอลลูนจากจุดที่ค้นหา ประกอบด้วยชิ้นส่วนเซนเซอร์และอุปกรณ์ไฟฟ้าสำคัญ และชิ้นส่วนขนาดใหญ่ของบอลลูน

สื่อสหรัฐฯ รายงานว่า บอลลูนของจีนถูกติดตามโดยหน่วยข่าวกรองของสหรัฐฯ นับตั้งแต่ลอยขึ้นจากฐานปล่อยบนเกาะไหหลำ ทางชายฝั่งทางตอนใต้ของจีนเมื่อต้นเดือนนี้ หลังจากบินขึ้นได้ไม่นาน บอลลูนก็ลอยไปทางเกาะกวมและรัฐฮาวายของสหรัฐฯ ก่อนจะเคลื่อนขึ้นเหนือไปทางรัฐอลาสกา

เจ้าหน้าที่ที่ไม่เปิดเผยชื่อกล่าวว่า เส้นทางของมันบ่งชี้ว่าอาจถูกพัดออกนอกเส้นทางเนื่องจากสภาพอากาศ แต่กลับมาอยู่ภายใต้การควบคุมของจีนอีกครั้งเมื่อเดินทางถึงทวีปอเมริกา.