ตำรวจรวบทันควัน หนุ่มใหญ่วัย 43 ปี ฉายา “ต้นคอลาย” หลังก่อเหตุชักมีดจ้วงแทงหนุ่มพิการฉายา “อ้วนเป๋” คนปล่อยเช่าเสื่อนั่งตายคาชายหาดพัทยา อ้างทำเงินหล่นผู้ตายเก็บได้ทวงไม่ยอมคืน ด้านพยานคาดสาเหตุทวงเงินธุรกิจผิด ก.ม.เรื่องยาเสพติด
เมื่อนที่ 16 เม.ย. 66 ร.ต.อ.สราวุธ ศิลป์สาย รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองพัทยา รับแจ้งเหตุคนใช้อาวุธมีดแทงกันเสียชีวิต เหตุเกิดบนชายหาดเมืองพัทยา ซอย 13/4 ถนนเลียบชายหาดเมืองพัทยา ม.10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ ฝ่ายสืบสวน ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์พัทยา

ที่เกิดเหตุพบศพ นายทศพล แซ่ลิ้ม อายุ 38 ปี คนพิการประเภท 2-3 พิการด้านความพิการทางการได้ยินหรือสื่อความหมาย และความพิการทางการเคลื่อนไหวหรือทางร่างกาย เจ้าของฉายา “อ้วนเป๋” ซึ่งเป็นเจ้าถิ่น มีอาชีพปล่อยเช่าเสื่อริมชายหาด นอนเสียชีวิตจมกองเลือด สภาพถูกอาวุธมีดแทงเข้าที่บริเวณกลางหน้าอก และปลายคิ้วข้างซ้าย จนเป็นฉกรรจ์ขนาดใหญ่ ส่วนคนร้ายหลังก่อเหตุได้วิ่งหลบหนีไป ตำรวจได้วิทยุสั่งการสกัดจับ สุดท้ายไม่รอดถูกจับกุมตัวได้ทันควัน ที่บริเวณปากทางเข้าถนนวอล์กกิ้งสตรีท พัทยาใต้ ห่างจากจุดเกิดเหตุไม่ถึง 100 เมตร ทราบชื่อคือ นายสมชาติ อัยลา อายุ 43 ปี หรือ “ต้น คอลาย” อยู่ในสภาพมึนเมาสุราในมือถืออาวุธมีด ยาวประมาณ 1 ฟุต ตำรวจจึงควบคุมตัวมาสอบสวนที่ สภ.เมืองพัทยา
จากการสอบถาม นายสมชาติ (ผู้ก่อเหตุ) ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนนั่งดื่มสุรากับกลุ่มเพื่อนๆ อยู่ที่บริเวณจุดเกิดเหตุ ด้วยความเมาจึงทำเงินหาย 500 บาท ซึ่งผู้ตายพูดว่าเป็นคนเก็บเงินจำนวนดังกล่าวได้ จึงเดินไปทวงอยู่หลายรอบแต่ผู้ตายไม่คืน เลยเกิดความโมโหจึงชักอาวุธมีดที่ติดตัวมาด้วย จ้วงแทงผู้ตายไป 1 ครั้ง แล้ววิ่งหลบหนี แต่ไม่รอดถูกจับกุมได้ในที่สุด
ด้าน น.ส.นาตยา สาธรณ์ อายุ 35 ปี พยานผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ตนเห็นทั้งคู่กำลังมีปากเสียงทะเลาะกันเรื่องเงิน ก่อนทั้งคู่จะแยกกันไป สักพักไม่นานผู้ก่อเหตุได้เดินย้อนกลับมาหาผู้ตาย และมีปากเสียงกันอย่างรุนแรง ก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะชกต่อยทำร้ายร่างกายผู้ตาย แล้วแทงผู้ตายที่นั่งอยู่บนเก้าอี้จนเสียชีวิตคาที่ หลังเกิดเหตุตนจึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบทันที
ด้าน นายบอย อายุ 25 ปี พยานซึ่งเป็นคนรู้จักของผู้ก่อเหตุ ที่ยืนอยู่บริเวณจุดเกิดเหตุ เล่าว่า ส่วนตัวคิดว่าเป็นการทวงเงินธุรกิจผิดกฎหมาย เนื่องจากเคยได้ยินข่าวว่า ผู้ตายไปรับยาเสพติดมาจากกรุงเทพฯ เพื่อนำมาจำหน่ายต่อให้กับกลุ่มวัยรุ่น และนักท่องเที่ยวตามชายหาด แต่เกิดหักกันเรื่องผลประโยชน์ ซึ่งผู้ตายโดนเชิดเงินค่าของ ผู้ตายจึงได้ทักทวงเสียงดังว่า “เงินกูอยู่ไหน” จึงทำให้ผู้ก่อเหตุโกรธแค้นกระโดดเตะหน้าและใช้มีดจ้วงแทงดังกล่าว
เบื้องต้นจากการสอบสวน ผู้ก่อเหตุยังคงให้การวกไปวนมา และขัดแย้งกับพยาน เนื่องจากเมาสุราอย่างหนัก ส่วนที่พยานระบุว่าหักกันเรื่องผลประโยชน์ และทวงเงินเรื่องธุรกิจผิดกฎหมายนั้น ตำรวจคงต้องรอผู้ก่อเหตุสร่างเมาเสียก่อน เพื่อสอบปากคำประเด็นดังกล่าวเพิ่มเติม โดยจากการตรวจสอบประวัติของผู้ก่อเหตุพบว่า เคยถูกจับกุมมาแล้ว 6 ครั้ง และเพิ่งพ้นโทษออกมาเมื่อวันที่ 16 ม.ค. 2566 ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ตำรวจจะได้ควบคุมตัวผู้ก่อเหตุ ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
ที่มา รวบหนุ่มใหญ่เมาโหด แทงดับคนพิการ อ้างทำเงินหล่น-ผู้ตายเก็บได้ไม่ยอมคืน (thairath.co.th)