ออกตัวล้อฟรีก่อนเลยว่าผมสนับสนุนความคิดของกัปตันทีมชาติอย่าง ธีราทร บุญมาทัน มาตั้งแต่การให้สัมภาษณ์ครั้งก่อนแล้ว
หากยังจำกันได้ตอนที่ทัพ “ช้างศึก” ของเราไปแพ้อุสเบกิสถานในรอบคัดเลือก เอเชี่ยน คัพ “โก๋อุ้ม” ให้สัมภาษณ์ผ่านทีมข่าวของ ThaiPBS เอาไว้แบบน่าคิดแบบนี้
“ผมไม่ค่อยได้มองในอาเซี่ยนเลย เป้าหมายของผมส่วนตัวอยากเล่นในระดับเอเชียมากกว่า แต่ถ้าหากทีมชาติเรียกก็ต้องเล่น แต่ถ้าถามว่าคุ้มไหมกับการเล่นในระดับอาเซี่ยน มันก็ดูจะไม่ค่อยคุ้มสักเท่าไร”
“บางทีก็เล่นหนักไปทางคนมากกว่าฟุตบอล บางครั้งเราไปเหมือนไปเจ็บตัว มันไม่เหมือนระดับเอเชียที่เป็นกลาง มันควรจะผ่านจุดนี้ไปได้แล้วสำหรับอาเซี่ยน เราอยากมองข้ามอาเซี่ยนไปเอเชียให้ได้”
“ผมว่าพวกบอลอาเซี่ยนถ้าเป็นเหมือนญี่ปุ่นที่ทำเขาจะใช้คนที่ต่อยอดในอนาคตไปเล่นเพื่อที่จะก้าวข้ามระดับอาเซี่ยนเพราะถ้าผ่านตรงนี้ไปได้ก็จะต่อยอดในระดับเอเชียได้”
“อย่างที่ผมอยู่ในญี่ปุ่นระดับทีม ยู-23 เขาจะเอา ยู-20 หรือ ยู-19 มาเล่น มันจะไม่ได้ดึงตัวจากทีมในลีกมา ส่วนมากจะเป็นเด็กจากเยาวชนที่อยู่ตรงโน้นตรงนี้ที่ไม่ค่อยได้เล่นชุดใหญ่มาเก็บตัวซ้อม”
“คือถ้าแพ้ก็ไม่เป็นไร เด็กพวกนี้คือการต่อยอดในอนาคต มันเป็นการที่ทำให้ลีกไม่ต้องหยุด แต่เราได้เด็ก ยู-19 ที่จะต่อยอดไปในทีม ยู-23 หรือทีมชุดใหญ่ที่จะซัพพอร์ตรุ่นพี่ในอนาคต”
“ที่ญี่ปุ่นเขาจะเรียกมาเก็บตัวเลย มาลงแท็คติกกัน มันไม่ต้องไปขอสโมสรที่ต้องเอาเด็ก ยู-23 ที่เป็นซูเปอร์สตาร์ของทีมที่ลงทีมชุดใหญ่แล้วเพื่อดึงมาเล่นกับระดับบอลอาเซี่ยนหรือซีเกมส์”
“ช่วงแรกมันอาจจะรับไม่ได้ แต่เราต้องรับให้ได้ ถ้าเราจะต้องการพัฒนาจริงๆ นี่คือความคิดของผมนะ เราจำเป็นจะต้องยอมในช่วงแรกที่ไม่ได้แชมป์ ทีมคงโดนแรกกระแทกแต่เราต้องรับให้ได้เพื่อเติบโตในทางที่ถูกต้อง”
นี่คือบทสัมภาษณ์ที่ทวนความทรงจำกันนิดหน่อยกับการพัฒนาชาติของตัวเอง
ไม่ว่าอุ้มจะพูดในฐานะนักฟุตบอลคนหนึ่ง, ในฐานะกัปตันทีมชาติ, ในฐานคนที่ต้องการเห็นวงการลูกหนังไทยก้าวข้ามในสิ่งที่เป็นอยู่หรืออะไรก็ตามแต่ สิ่งที่อุ้มพูดออกมาคือสิ่งที่ควรจะทำ
คำพูดดังกล่าวของแข้งดีกรีแชมป์ เจลีก สร้างแรงกระเพื่อมได้พอสมควร
แฟนฟุตบอลไทยแทบจะ 99% เห็นด้วยกับเขาเพราะถ้าหากจะก้าวข้ามไปจริงๆมันต้องเริ่มวางรากฐานและระบบให้ดีก่อน
มาล่าสุดหลังเกมที่ “โก๋อุ้ม” ตะบันซัดประตูชัยให้ ไทย เชือด เวียดนาม ไป 1-0 คว้าแชมป์ เอเอฟเอฟ มิตซูบิชิ อิเล็กทริค คัพ ได้เป็นสมัยที่ 7 นั้นเขาก็ได้พูดในสิ่งที่นักฟุตบอลส่วนใหญ่ไม่ค่อยจะพูดออกมา
“ผมอยากให้ภูมิภาคอาเซี่ยนมีการพัฒนาโดยใช้ VAR เพราะว่าไม่อยากให้มีการทำร้ายกัน”
“เราคือเพื่อนบ้านกัน เราไม่อยากให้มาเตะกันแล้วมีเรื่องบาดหมาง ผมอยากให้มี VAR เพื่อแฟร์เพลย์ เล่นกันด้วยฟุตบอล เราพัฒนาอาเซี่ยนไปด้วยกันเพื่อไปแข่งระดับเอเชีย”
“ไม่ใช่มาแบบว่ามาเตะแล้วก็ทำให้คู่ต่อสู้ได้รับบาดเจ็บ แล้วก็ทำให้เพื่อนบ้านเรารู้สึกไม่ดีต่อชาติอาเซี่ยนด้วยกัน ผมอยากให้มี VAR เข้ามาดังนั้นผมถึงจะพิจารณาในการเล่นรายการนี้อีกครั้ง”
เออ มันควรต้องมีป่ะ
ไม่ว่าจะระดับภูมิภาคเล็กๆหรืออะไรก็เถอะ ยุคปัจจุบันการเล่นนอกเกมต่างๆควรจะหมดไปได้แล้ว
เราคงได้เห็นภาพตอนไปเยือนเวียดนามกันใช่ไหมล่ะครับว่ามีจังหวะที่นัวเนียกันอยู่แล้ว ธีราทร ก็โดนเบอร์ 3 ของทัพ “ดาวทอง” ผลักเฉย
คำพูดของอุ้มมันไม่ได้จะทำให้ตัวเองดูหล่อเลือกได้ มันไม่ได้ดูเรื่องมากอะไรเลย แต่มันคือสิ่งที่ควรพัฒนากันต่อไม่ใช่อย่างนั้นเหรอ ?
มาจนถึงตอนนี้ผมอยากสนับสนุนคำพูดของ ‘โก๋อุ้ม’ ที่ให้สัมภาษณ์ออกมาตรง ชัดเจน และมีเป้าหมาย
ปลอกแขนกัปตันทีมที่เขาสวมใส่มันคือสัญลักษณ์ของผู้นำจริงๆ และไม่ใช่แค่การเป็นผู้นำเฉพาะในเกมการแข่งขัน
แต่ความคิดของ อุ้ม นั้นคือผู้นำที่ต้องการจะผลักดันทั้งชาติตัวเองและในอาเซี่ยนไปพร้อมๆกันด้วย
Cr เพจ Cheerball